Apple ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนเรือธงตระกูล iPhone ถูกสื่อดังเปิดเผยว่า มีความเป็นไปได้สูงมากที่พวกเขาอาจจะต้องพึ่งพาโมเด็ม Snapdragon 5G ของค่าย Qualcomm กับ iPhone รุ่นใหม่ ๆ ไปจนถึงปี 2025 หลังแผนการพัฒนาโมเด็ม 5G ของตัวเองประสบกับความล่าช้าจากเดิมที่คาดว่าจะเปิดตัวได้ภายในปี 2023 อาจต้องเลื่อนไปเป็นปี 2025 ซึ่งนั่นจะทำให้ Qualcomm ยังคงรักษาสถานะผู้จัดจำหน่ายโมเด็ม 5G สำหรับมือถือตระกูล iPhone แต่เพียงผู้เดียวต่อไปได้อีกหลายปี
Apple อาจต้องพึ่งโมเด็ม 5G ของ Qualcomm ใน iPhone 15 และ iPhone 16 เป็นอย่างน้อย
“เจฟ พู” (Jeff Pu) นักวิเคราะห์ของ Haitong International Securities ฮ่องกง เปิดเผยว่า Apple จะยังคงใช้งานโมเด็ม 5G ของค่าย Qualcomm ใน iPhone 15 Series และ iPhone 16 Series เนื่องจากแผนการพัฒนาโมเด็ม 5G ของตัวเองประสบกับความล่าช้าจากเดิมที่คาดว่าจะเปิดตัวได้ภายในปี 2023 อาจต้องเลื่อนไปเป็นปี 2025 โดยคาดว่า iPhone 15 Series และ iPhone 16 Series จะใช้โมเด็ม Snapdragon 5G รุ่น X70 และ X75 ตามลำดับ ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงกว่าโมเด็มรุ่น X65 ที่อยู่ใน iPhone 14 Series ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อช่วงกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมา เนื่องจากรองรับสปีดดาวน์โหลดได้สูงสุดมากกว่า 10Gbps และปรับปรุงการใช้พลังงานให้ดีขึ้นถึง 60% ช่วยให้ประหยัดพลังงานมากขึ้น พูดง่าย ๆ ว่าแรงขึ้นแต่กินไฟน้อยลงเกินครึ่ง
นอกจากนี้ X70 และ X75 ยังมี AI ที่คอยช่วยจัดการเรื่องความเร็วในการเชื่อมต่อ ช่วยลดความหน่วยของสัญญาณ เพิ่มความเสถียร ขยายพื้นที่ครอบคลุมของสัญญาณ ทำให้การเชื่อมต่อเครือข่าย 5G มีคุณภาพมากขึ้น โดยที่ชิป Snapdragon X75 จะใช้สถาปัตยกรรมขนาด 4 นาโนเมตร ของ TSMC
ปัจจุบัน Apple ใช้โมเด็ม 5G ของ Qualcomm กับ iPhone เพียงแค่เจ้าเดียว หรือพูดง่าย ๆ ว่า iPhone ทุกรุ่นล้วนใช้โมเด็ม 5G จาก Qualcomm ด้วยกันทั้งสิ้น ซึ่งหากแผนการพัฒนาโมเด็ม 5G ของตัวเองยังคงเนิ่นช้าต่อไปเรื่อย ๆ ก็คาดว่า iPhone รุ่นใหม่ ๆ ก็ยังคงต้องพึ่งพาชิป 5G ของ Qualcomm ไปเรื่อย ๆ แต่จะช้ากว่าปี 2025 อีกหรือไม่ คงต้องติดตามข่าวกันต่อไป
สามารถติดตามข้อมูลด้าน เทคโนออนไลน์ ที่จะทำให้คุณเข้าใจเรื่องไอที